ส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญา (ด้วยจินตคณิต)
การส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็กสามารถพัฒนาเพิ่มขึ้นได้จากการจัดกิจกรรมให้กับเด็กได้ลงมือกระทำและเกิดการเรียนรู้ เด็กจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างๆเข้ามารวบรวมและจัดเก็บพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็ก จนไปด้านวิชาการที่สามารถลงมือปฏิบัติได้เองเช่น การส่งเสริมด้านจินตคณิตที่สามารถเรียนรู้จนเป็นกิจกรรมและสามารถฝึกฝนได้เองเพราะการเรียนจินตคณิตเป็นการคิดเลขโดยใช้จินตภาพซึ่งต้องใช้ความนิ่งของสมาธิค่อนข้างมาก เป็นการสร้างภาพของลูกคิดขึ้นในสมอง ในขณะเดียวกันนั้น สมองทั้งสองฝั่งซึ่งใช้ในการเรียนจินตคณิต จะถูกกระตุ้นและพัฒนาไปพร้อมๆ กัน
การเรียนจินตคณิต เป็นการเรียนรู้ทางคณิตศาสตร์สามารถนำมาเป็นกิจกรรมเพื่อพัฒนาสมองได้เป็นอย่างดีเมื่อเด็กได้รับการเรียนตามหลักสูตรแล้ว ก็สามารถใช้เป็นกิจกรรมฝึกฝนตนเองไเ้ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียนพัฒนาด้านอื่นๆได้อีกหลายด้าน
พ่อแม่และครูเป็นสภาวะแวดล้อมและการปฏิสัมพันธ์ที่สำคัญแก่เด็กฉะนั้นพ่อแม่และครูจึงควรเป็นแบบอย่างที่ดีเพื่อการเลี้ยงดูที่ส่งเสริมพัฒนาการทางด้านสติปัญญาของเด็กควรคำนึงถึงสิ่งต่างๆดังนี้
1.อาหาร นอกจากจะมีความสำคัญต่อพัฒนาการทางด้านร่างกายแล้ว อาหารยังมีความสำคัญอย่างมากต่อพัฒนาการทางด้านสติปัญญา ถ้าเด็กขาดอาหารสมองจะไม่พัฒนา เด็กอายุ 2 ปี สมองจะโตเป็น 75%และเป็น 80 % และ 90% เมื่ออายุ 4 ปี และเมื่ออายุ 6 ปี ตามลำดับในช่วงเวลาดังกล่าว ถ้าเด็กได้รับสารอาหารไม่เหมาะสมหรือได้รับสารพิษ เช่น ตะกั่ว การเติบโตของสมองจะถูกกระทบกระเทือน เช่น ตัวเซลล์ไม่แบ่งตัว ไม่แตกแขนงและสร้างจุดเชื่อมโยงอย่างสมบูรณ์
2.การเล่น การเล่นนอกจากจะส่งเสริมการพัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ และสังคม ดังที่กล่าวมาแล้ว การเล่นและการทำกิจกรรมต่างๆ ยังช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางด้านสติปัญญาอีกด้วย การเล่นการทำกิจกรรมต่างๆ ช่วยให้เด็กได้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยไม่มีใครสั่งสอนได้ เด็กได้เรียนรู้จากการสัมผัสสิ่งที่ตนเล่น ได้ทดลองผิดถูกครั้งแล้วครั้งเล่า จนสรุปได้ว่าเป็นพื้นฐานให้เกิดสติปัญญา
3.การฟังและการพูด การฟังเป็นกุญแจสำคัญของการเรียนรู้ในช่วง 1-3 ขวบ แม้ว่าเด็กจะยังพูดไม่คล่องก็ตามแต่เด็กก็สามารถฟังเรื่องราวต่างๆ จากผู้ใหญ่พูดให้ฟัง แม้ว่าจะเข้าใจไม่หมด แต่นั่นเป็นการฝึกให้เด็กคิดตามในเรื่องที่ผู้ใหญ่พูด พ่อแม่ผู้ปกครองตลอดจนครูผู้ดูแลเด็ก จึงควรฝึกให้เด็กปฐมวัยนั่งนิ่ง และเงียบเป็นบางครั้งในแต่ละวัน และเริ่มด้วยการให้เด็กฟังเราพูดสักหนึ่งหรือสองนาทีในต่อครั้งที่พูด สังเกตว่าสายตาของเด็กอยู่ที่เรา แล้วถามเกี่ยวกับสิ่งที่พูดไปแล้ว เมื่อเด็กตอบ เราต้องชมเชย ให้กำลังใจและกอดเด็ก เพื่อแสดงความดีใจที่เด็กตอบคำถามได้เป็นการให้กำลังใจในความพยายามในครั้งต่อๆไป ในการฝึกฟังและพูด เป็นการช่วยพัฒนาทางด้านสติปัญญาของเด็กได้เป็นอย่างดีวิธีหนึ่ง
เรียนจินตคณิต
จินตคณิตพัฒนาสมอง
จินตคณิต
คณิตศาสตร์